ทริปนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานเหมือนกัน ในการเลือกโรงแรม ว่าจะพักที่ไหนดี เพราะทุกวันนี้โรงแรมที่เป็นสไตล์ Boutique hotel ผุดขึ้นมายังกะดอกเห็ด แถมยังราคาไม่ถูกอีกด้วย และแล้วก็ได้ข้อสรุปที่ บ้านพันทาย ชะอำ............ ทำไมถึงเลือกที่นี่งั้นหรอ? คงเป็นเพราะมาเที่ยวทะเล ชะอำ-หัวหิน บ่อยมั่กๆ ก็เลยเคยชินกับหลายๆอย่าง และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ
บ้านพันทายรีสอร์ท เพิ่งจะเปิดได้ไม่ถึงปีเลย(มั้ง) สภาพใหม่ ที่สำคัญมีสระว่ายน้ำ ไม่ลึกด้วย เพราะช้านว่ายน้ำไม่เป็น อิอิอิ.... จะว่าไปแล้วตอนนี้ บ้านพันทาย ก็เปงโรงแรมที่ใหม่ และหรูที่สุดของหาดชะอำเลยแหละ เพราะ พวกโรงแรมใหญ่ๆ อย่าง เมธาวลัย เจมส์ สวนบวกหาด ฯลฯ ที่เปงโรงแรมใหญ่ๆดังๆเมื่อก่อน ก็ไม่น่าพักแล้วอ่ะ และช้านก็ชอบพักโรงแรมที่มีสไตล์เปงบูติกมากกว่า เพราะดูเงียบ เป็นส่วนตัว และไม่ค่อยวุ่นวายดี
การเดินทางก็ง่ายมากเลยเพียงขับรถตรงมายังชายหาดชะอำ จะเห็นสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย ผ่านนิรันดรรีสอร์ท ผ่าน7 eleven ก็มาถึงแล้ว ถือว่าอยู่ในย่าน ใจกลางหาดชะอำเลยก็ว่าได้ มองดูชายหาดฝั่งตรงข้ามดูคึกคัก นี่ขนาดมาวันปกติ ถ้าเสาร์-อาทิตย์ คนเยอะแน่ แต่พอเข้ามาในโรงแรมเหมือนอยู่คนละโลกกะฝั่งชายหาด เพราะบรรยากาศเงียบมาก ต้นไม้เยอะแยะร่มรื่นดี มีฝรั่ง 6-7คน เล่นน้ำ นอนอาบแดด และอ่านหนังสืออยู่ข้างสระว่ายน้ำ พนักงานดูเป็นกันเองมาก โดยเฉพาะน้องรีเซฟชั่น ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักมาก จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แต่บริการดีมั่กๆๆค่ะ
ตอนแรกจะใช้ส่วนลดจากบัตรเครดิต ธนาคารไทยพานิชย์ แต่ทางโรงแรม แจ้งว่ามีคนจองเต็มแล้ว ซึ่งราคา ห้องที่ใช้ส่วนลดได้คือห้องแบบ Deluxe (ชั้น2) ราคาปกติ2300 ถ้าโปรโมชั่น ลดเหลือ 1990 บาท ทำไงดีหล่ะช้าน ไม่อยากพักที่อื่นแล้วด้วย ก็เลยถามราคาห้องพักแบบอื่นๆ ดังนี้
- Superior ราคา2600 , Jacuzzi Villa 3,500 บาท ก็เลยยืนต่อรองราคากับพนักงาน สรุปว่า ได้ห้องพัก แบบ Superior (ชั้น1)จากราคา2,600 ลดเหลือ 2,000บาท เนื่องจากเป็นวันปกติ ไม่ใช่วันหยุด
ได้ห้องพักหมายเลย 104 อยากได้ห้องติดกันเปงห้องกระจกติดสระว่ายน้ำ ห้องPantai Superior แต่เค้าขายเปงแพคคู่ ราคาแพงกว่า ห้อง Superior ที่ช้านพักอ่ะ .....มาดูข้างในห้องพักกันเถอะ วะว้าว ชอบโซฟาข้างเตียงมาก จอทีวี LCD 32" ห้องน้ำกว้างขวางมาก แบ่งเปง3โซน ฝั่งซ้าย คือชักโครก ตรงกลางเปงอ่างล้างหน้า (มีไดร์เป่าผมให้ด้วย) ส่วนขวามือ เปงชาวเวอร์ ชอบชาวเวอร์ที่นี่ใหญ่มากๆๆๆ เค้าออกแบบห้องน้ำได้ดีมาก เพราะตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟ ก็ได้ สว่าง โล่ง และไม่เหม็นอับ เอาล่ะ...ได้เวลาทดสอบ ระบบ wifi ของที่นี่กันแล้ว ไปกันสองคน มีnotebook กันคนละเครื่อง แต่ก็ต้องใช้user-pas แยกค่ะ ที่นี่ใช้ระบบhotspot ก็เหมือนที่ช้านใช้ ที่อพาร์ทเมนท์นั่นแหละ ความเร็วก็พอๆกัน...... 
เริ่มหิวกันแล้ว ออกไปหาอะไรกินที่ชายหาดกันดีกว่า ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง (เฮ้อ ! มาทะเล แต่มากินอาหารอีสาน) ตอนเย็นถึงจะไปกินอาหารทะเลค่ะ ส้มตำปู รสชาติถึงจะไม่เด็ดเท่าร้านประจำ ของช้าน แต่มานั่งกินบนเก้าอี้ผ้าใบ ริมชายหาด ลมพัดเย็นสบายๆแบบนี้มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบเหมือนกันนะ ช้านใช้เวลาดื่มด่ำ กับรสชาติข้าวเหนียว ไก่ย่างต่างถิ่น มองดูผู้คนเดินผ่านไปมา พ่อค้า แม่ค้า แวะมาเสนอขาย หอยนางรม ปลาหมึก ผ้าคลุมไหล่ นาฬิกา ฯลฯ แทบจะทุกๆ 5นาที ไม่มีความเป็นส่วนตัวเล๊ย ก็ต้องเข้าใจว่าเปงอาชีพของเค้าอ่ะนะ เดินกลับห้องไปนอนตากแอร์ซักพักดีกว่า แล้วมาเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ.....
พอแดดร่มลมตก ก็ได้เวลาแสนสุขอีกครั้ง ไม่มีอะไรที่มีความสุขไปมากกว่า นอนอ่านหนังสือดีๆซักเล่มข้าง สระว่ายน้ำ เล่นโยนบอลในสระ อาบลม(ไม่กล้าอาบแดด กลัวดำค๊าา) ก็ตามที่บอกไปด้านบนว่า ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ขอบสะสมชุดว่ายน้ำ ชอบไปพักโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำกว้างๆ และไม่ลึก คนที่มาพักที่นี่ส่วนมากจะเป็น ชาวต่างชาติ มากกว่าคนไทย เท่าที่เห็นมีคนไทยมาพักแค่ 6 คนเอง นอกนั้นต่างชาติ ตอนเล่นโยนบอลอยู่อ่ะ มีฝรั่ง2คนวัยรุ่นน๊า เปงแฟนกันแหละ มาขอแจม เล่นโยนบอลด้วย สนุกสนาน ใช้เวลาเล่นน้ำประมาณ 2ชั่วโมง ขึ้นมาแล้วตัวออกสีม่วงเลย อิอิอิ..... น้ำในสระว่ายน้ำ เค็มมาก เข้าตาก็ตั้งหลายครั้งจนตาแดงไปข้างนึง
พอขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ ก็จัดการ อาบน้ำ สระผม แต่งตัว เพื่อที่จะออกไปหาอะไร อร่อยๆกิน เค้าบอกว่ามาชะอำ ถ้าอยากกินอาหารทะเลสดๆ ก็ต้องไปที่สะพานปลา ตอนกลางวันขับรถไปดูกันมาแล้วรอบนึง เลือกไม่ถูกเลย มีร้านเยอะมากๆ ก็เลยต้องถามพี่กู(เกิ้ล) มีชอยส์ 2ข้อ คือร้านครัวเม็ดทราย กะ ครัวป้าฮีด สรุปว่าเลือกร้านครัวเม็ดทราย เพราะถึงก่อนครัวป้าฮีด มีรถจอดเยอะแยะเลย โชคดีที่มีโต๊ะติดหาดเค้าเช็คบิลออกไป ก็เลยได้โต๊ะที่ทำเลดี ช้าน อยากกินปลากระพง ทอดน้ำปลา แต่ปลากระพงหมด อดเลย อาหารที่สั่งมามื้อนี้ มี ทอดมันกุ้ง เนื้อปูผัดผงกะหรี่ ต้มข่ากุ้ง ความจริงแค่นี้ก็น่าจะอิ่มนะ แต่ด้วยความละโมบ ของช้านเอง จานสุดท้ายเปงจานบิ๊กเลย คือปลาสามรส กินแทบจะไม่หมดเลย (ต้องขออภัยงดถ่ายรูป เนื่องจากช้านหิวมาก ไม่สนใจถ่ายรูปแล้ว) เช็คบิลมา 800 บาท ราคาไม่ถูก ไม่แพง กำลังดีนะ รสชาติก็อร่อยทุกอย่างเลย แต่แปลกใจว่ารูปร้านนี้ที่เค้าใช้ลงเว็ป กับตอนนี้ไม่เหงเหมือนกันเลย งงงงง... ก่อนเข้าห้องแวะซื้อเสบียง กักตุนไว้กินรอบดึกที่ 7 กลับมาทันดูละคร ซุปเปอร์สตาร์อีก 2ตอน
.....และแล้วความหิวก็คืบคลานเข้ามาในกระเพาะใหญ่ๆของช้าน เวลาประมาณตี2กว่าๆ ออกไป7-eleven เพื่อนที่รู้ใจ ใกล้คุณ อีกครั้ง แต่ไปได้ปลาหมึกสดย่างหน้า7มาแทน น้ำจิ้มรสเด็ด แซบมากค่ะ โชคดีที่โรงแรมตั้งอยู่ใจกลาง ชะอำ ออกมาดึกขนาดไหน ก็ไม่น่ากลัว แถมที่โรงแรมยังมียามเดินตรวจตราห้องพักอยู่ทั้งคืน แต่กว่าช้านจะได้นอน ก็ประมาณตี4 เวลาดี เวลานี้แหละ hahaha...
10 โมงครึ่ง good morning ชะอำ จ้า เมื่อคืนนอนไม่ค่อยสบาย เนื่องจากช้านเปงคนที่ นอนหมอนสูงไม่ได้ ก็เลยทำให้มีอาการปวดต้นคอนิดหน่อย ไม่เปงไร วันนี้มีโปรแกรม ไปสปา นวดอโรมา ซะหน่อย....... เวลาbreakfast ของที่นี่ ตั้งแต่7:00-11.00 น.คงเปง ห้องสุดท้ายมั้งที่ออกมาทานbreakfastเวลาสิบโมงกว่าๆ อากาศที่นี่สดชื่นมากๆๆ อยากสูดไว้ในปอดนานๆ
อาหารเช้าที่นี่เปงแบบเซท แบบไทยกับอเมริกัน ช้านเลือกแบบอเมริกันอยู่แล้ว เพราะข้าวต้มหน่ะ ช้านต้มกินเอง ก็ได้ วันนี้ได้ทานbreakfast แบบได้บรรยากาศ ไปอีกแบบ กินไปนั่งมองทะเลไปด้วย ทำให้รสชาติมื้อเช้าดี แต่ไส้กรอกเปงไส้กรอกไก่ ทำไมเค้าไม่ใช้ไส้กรอกหมูก็ไม่รู้ งง.. แต่โดยรวมก็โอเคนะ
กว่าช้านจะเช็คเอาท์ก็ประมาณบ่ายโมง ไปสปากันดีกว่าอยากนวด ใครที่ชอบนวด หากแวะมาเที่ยวที่ชะอำ แวะมาที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ ร้านนวดละมุน อยู่ด้านหน้าโรงแรมลองบีชชะอำ ราคาไม่แพง ช้านมาที่นี่เปงครั้งที่สองแล้ว โปรโมชั่นที่ไปนวดมา นวดไทย 1ชั่วโมง ราคา 299 ฟรีนวด ฝ่าเท้าอีก 30นาที อยากบอกว่าราคาถูกมากๆๆๆ หาราคาแบบนี้ไม่ได้แล้วที่กรุงเทพ บรรยากาศของร้านนี้ก็ไม่ดูหรูแบบเวอร์ ก็คือสไตล์ธรรมดา แต่ดูดี สะอาดสะอ้าน สบายตา พนักงานนวดของที่นี่ก็เป็นพนักงานของโรงแรมด้วย เพราะร้านนี้ เปงของโรงแรมลองบีชชะอำ สังเกตร้านง่ายๆ ขับมา เลียบชายหาด ก่อนถึงสามแยกปากฉลาม (ตรงที่ออกขวาไปสะพานปลา) จะเหงโรงแรม ลองบีชชะอำ ร้านชื่อ นวดละมุน ติดกับร้านเบเกอรี่ ของโรงแรมค่ะ
พอนวดตัวเสร็จแล้วสบายตัวสบายใจ ^^ขากลับแวะ Outlet ตรงชะอำแต่ไม่ได้อะไรติดมือมาเลย มาเพชรบุรีครั้งก่อนแวะ outlet flynow ซื้อของมาเพียบ ไม่ลืมที่จะแวะซื้อขนมหม้อแกง จากร้านแม่กิมลั้ง ที่มีสาขาเยอะมาก กลับถึงกรุงเทพ2ทุ่ม วันศุกร์รถติด....
ถ้าใครสนใจอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านพันทาย เข้าไปดูในเว็บของโรงแรมได้ค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น