๏○♪♥Songkarn Trip ♥♪○๏ เชียงใหม่-เชียงราย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-อุบลราชธานี

เดินทางมาถึงเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ ขอขอบคุณสายการบินไทย
(แต่วันนี้กัปตันพาเครื่องลงแรงไปหน่อยนะค๊า) ต้องมานั่งรอสัมภาระ
(ที่ค่อนข้างเยอะ) เออ!!นี่ช้านจะย้ายบ้านรึยังไง
ออกมาจากสนามบินเชียงใหม่...โดยTaxiสนามบิน ราคา120บาทค่ะ
ใช้เวลาประมาณ15นาทีก็มาถึง แจ่งศรีภูมิ เข้ามาตอนแรก
นึกว่าอยู่แถวข้าวสาร เพราะแถวนี้มีguesthouseเยอะมากๆๆๆๆ
และมีต่างชาติเยอะด้วย (เข้าทางเลยดิ) อิอิอิ....
เลือกพักที่ชาร์โคลเฮาส์ ห้องพักราคา700บาท(ห้องแอร์ ไม่มี ทีวี ตู้เย็น นะ)


สำหรับช้านไม่จำเปง แค่มี Wifi ก็พอแล้ว
ที่นี่ไม่มีลูกค้าเปงคนไทยเลย มีแต่ต่างชาติ เหมือนช้านไม่ได้อยู่เชียงใหม่เลย
ห้องพักแบบน่ารักๆ มีห้องพักไม่กี่ห้องเอง เพราะมีแค่สองชั้น
เข้าไปดูใน website ได้ค่ะ www.charcoa.com
มื้อเย็นนี้ฝากท้องไว้ที่ ชาร์โคล คาเฟ่ ละกัน ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องอาหาร
อร่อย ลองดูละกัน....สั่ง ชีสสติ๊ก มาเปงออเดิฟ และ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
รสชาติใช้ได้เลย และราคาไม่แพงด้วย หาทานที่ กทม.ราคาแบบนี้ไม่ได้แน่
อยากกินเค๊ก แต่ท้องช้านรับไม่ไหวแล้ว เอาเปงวันหน้าละกัน

วันที่ 2 @ เชียงใหม่

ตื่นนอนบ่ายสาม เพราะเมื่อคืนนอนเกือบเช้า นอนไม่ค่อยหลับ ต่างสถานที่ก็งี้
โชคดีที่คูปองอาหารเช้า(ฟรี)ของที่นี่ใช้ได้ทั้งวัน แต่!!!อะไรมันจะดียังงี้

อันที่จริงแล้ว อาหารเช้าที่เค้าฟรีให้อ่ะ แค่ ขนมปังปิ้งกะ กาแฟ เฮ้อ!!ไอ้เราก็
นึกว่าเปงพวก abf หรือ tbf สั่งกระเพราไก่ไข่ดาวมากินดีกว่า
ตบท้ายด้วยเค๊กก้อนโต ซักชิ้นก็ดี.............
มื้อค่ำ ก็ฝากท้องไว้กับที่นี่อีก ต้มข่าปลา อร่อยมาก คืนนี้
เพื่อนๆจากอุบล ออกเดินทางตอนเที่ยงคืน คงถึงพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ




สวัสดีเชียงใหม่....วันที่สามแล้วนะ
นอนไม่ค่อยหลับเลยอ่ะ แถมตอนเช้ากำลังหลับสบายๆ เหมือนช้านหลง
เข้าไปอยู่ในดงต่างชาติ ไม่รู้อะไรเปงอะไร ฝรั่งพวกนี้ขยันตื่นเช้าจังเลย
นอนไม่เท่าไหร่ ก็ต้อง check-out แล้ว เพราะเค้ามีลูกค้ามารอแล้ว
ตายแล้วพวกเพื่อนเราถึงไหนแล้วนี่ โทรไปcheck บอกว่า อีกประมาณ
3ชั่วโมงถึง เฮ้อ!จะทำอะไรรอดีหว่า ไปสระผมรอก็แล้ว นั่งรอที่คาเฟ่
ก็ไม่รู้จะสั่งอะไรดี เพรากินเกือบหมดทุกอย่างแล้ว อิอิ...
สรุปกว่าเพื่อนๆจะมารับ สี่โมงเย็น
คืนนี้ไปท่องราตรีกันดีกว่าที่ warm-up
กรี๊ด!!! เปงโชคดีหรือโชคร้ายของช้านกันนี่ที่คืนนี้ที่ warm-up
มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อะไร ยังไงกันเนี่ย
คนหน้าตาดีมาอยู่ที่นี่หมดเลยหรอ ดูดูไปแล้ว คงไม่ใช่เด็กเชียงใหม่ทั้งหมด
มีเพื่อนของเพื่อนที่เชียงใหม่ จองโต๊ะไว้ให้ โซนOut door
ตรงทางเข้าพอดี คือ ใครผ่านเข้า ผ่านออก เหงทุกคน
แล้วยังงี้ช้านจะอดใจไหวได้เยี่ยงไร แทบจะไม่ได้เมาท์กับเพื่อนๆเลย
มองซะจนแบบว่าโดนเพื่อนกัด ว่าไม่สนใจเพื่อนเลย เอาแต่แจกอย่างเดียวเลย

นะ...ถ้าใครได้นั่งอยู่ในตำแหน่งดีๆ แบบช้านในคืนวันนั้น ช้านว่า

ก็ต้องทำแบบช้านแน่นอน คิดแล้วก็มีฟามสุข
แต่!!!ที่ช้านบอกว่าโชคร้ายของช้านก็คือ ไม่ได้แต่งหน้าแบบเริ่ดๆมาหน่ะสิ
แบบว่ารีบมากๆๆ เพราะบ้านเพื่อนอยู่ห่างจากตัวเมืองตั้ง20กิโลแม้วแนะ
แล้วยังเปงช่วงเทศกาลอีก ต้องรีบ เดี๋ยวไม่มีที่กิน ที่เที่ยว
อ้อ !!ลืมบอกไปว่าเจอ เสี่ยอุ๊ดด้วย เห็นแล้วหมั่นไส้
เพราะนั่งโต๊ะติดกัน รำคาญ เพราะเมาท์เสียงดัง
แหม!!จ้างเด็กผู้ชายมานั่งซะเต็มโต๊ะเลยนะ ส่วนโต๊ะด้านใน
ก็เจอพี่โอ๊ค และน้ำนิ่งด้วย วันนี้ดารามากันเยอะ
พูดถึงกับข้าวที่ warm up อร่อยมากเลย โดยเฉพาะ ขาหมูเยอรมัน
อร่อยจนไม่กลัวอ้วนเลยอ่ะ พอท้องอิ่มก็เริ่มง่วงเพราะแทบไม่ได้นอน เลยเมื่อคืน

พี่แอนก็คงเหนื่อยเหมือนกัน เพราะขับรถมาทั้งวันทั้งคืนเลย
ส่วนนังมลตี้หน่ะ สงสัยว่าต้องไปหากินผู้ชง ผู้ชายที่นี่แน่ๆเลยค่ะ
เพราะมาส่งพวกเราทิ้งไว้ แล้วมันก็ไป น่าเสียดายแทนมันเหมือนกัน
ที่ไม่ได้มาด้วยกัน ตกลงคืนนี้กินอิ่ม แจก แล้วก็กลับไปพักผ่อนดีกว่า
เอาแรงไว้เที่ยว วันพรุ่งนี้ดีกว่า ok!!

วันที่4 @ เขื่อนแม่งัด

"ปี๋ ใหม่เมืองเฮากะมาถึงแล้วน่อ ดำหัวแม่ป้อป้าลุงอุ้ยเฮาดีกว่า
ประเพณีบะเก่าของเฮาสืบมา เข้าวัดเข้าวาตักบาตรทำบุญ
ก๋ำสะหลุงใส่ข้าวตอกดอกไม้ ฮื้อเปิ้นได้จื่นใจ๋ตี้หมู่เฮาฮู้คุณ
เตวะบุตรเตวะดาเปิ้นมาอุดหนุน อันก๋านทำบุญตึงบ่อมีวันปุ๊ดตึน
เปิ้นปั๋นปอน เฮาก่อยกมือไหว้ เย็นอ๊กเย็นใจ๋อายุมั่นขวัญยืน
อยู่ดีกิ๋นดี ตึงยามนอนยามตื่น ใจ๋บานใจ๋จื่นปันใหญ่ปันสู
ปี๋ใหม่เมืองเฮาก่อมาถึงแฮ๋มแล้ว งามตึงดอกแก้ว งามตึงดอกหางนกยูง
ชุดผ้าเมืองเฮาก่อปากั๋นนุ่ง ก๋ำขันสะหลุงน้ำส้มป่อยไปดำหัว"


กรี๊ด!!!!!! นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงเช้าเองนะ เสียงตามสายเปิดเพลงปลุกนี่หว่า
ตอนแรกนึกว่าเพื่อนคนไหนอินเทรน ตั้งเสียงโทรสับ เปงเพลงนี้
ลืมไปว่าเมื่อคืนมาค้างที่บ้านเพื่อน แล้วบ้านเพื่อนเนี่ยห่างจากตัวเมือง
ประมาณยี่สิบกิโล (ไม่ค่อยจะไกลเลยน๊า) แต่ก็ยังใจรักเที่ยว
วันนี้พวกเรามีโปรแกรมไปเขื่อน แต่กว่าจะออกไปกันได้ก็เกือบเที่ยง
เพราะแวะทำธุระหลายที่ และแวะรับเจ๊อุ๊ด ด้วยที่ ม.แม่โจ้ ทางผ่าน

การเดินทางไม่ยาก ถ้าเริ่มจากเชียงใหม่ ก็ไปตามถนนสายแม่ริม แม่แตง
ระยะทางประมาณ 50 กม.จากเชียงใหม่ ก็จะเจอป้ายหน้าเขื่อนใหญ่ๆ เลี้ยวเข้าไปเลย
ระยะทางจากทางเข้า จนกว่าจะถึงเขื่อนก็ประมาณ 10 โลได้อ่ะมั๊ง (เดาๆ เอา)
พอไปถึงเราก็ต้องจ่ายตังค์ค่าเข้าอุทยานก่อนเลยคนละ 20 บ. และก็ค่ารถยนต์อีก 30 บ.

แล้วก็นั่งเรือเหมาเข้าไปข้างในเขื่อน (เพื่อไปยังแพ) เสียค่าเรือไป 800 อ่ะ เค้าคิดไปกลับ

ถ้าไปกันแยะก็มีคนหารแยะหน่อย วันนี้เราไปกันทั้งหมด 8 คน
พอถึงแล้ว ค่าขึ้นแพเค้าคิดคนละ 20 บาทขาดตัว (สำหรับพวกไม่นอนนะ)
แต่ถ้าต้องการนอน คิดคนละ 100 บาท ขอบอกว่าใครที่จะไปปิ๊กเนี่ย เตรียมอาหารไปด้วย
จะดีมั่กๆ เพราะตอนไปไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย นอกจากขนม ไปสั่งอาหาร รอนานมากๆๆๆๆ
โชคดีที่แวะทานข้าวขาหมูข้างทางมาก่อนแล้ว ไม่งั้นหิวตายเลย
ช้านไม่ค่อยตื่นเต้นซักเท่าไหร่ เพราะบรรยากาศแบบนี้คล้ายๆอยู่ที่กาญจนบุรี


ก็เลยมะค่อยได้ถ่ายรูปไว้เยอะ อากาศก็ค่อนข้างร้อน ลมไม่ค่อยพัด
อยากลงเล่นน้ำ แค่เหงเค้าบอกว่าน้ำลึก ไม่กล้าลง เพราะว่ายน้ำไม่เปง
กินเหล้าซักพัก อาหารก็มาแล้ว ขนาดไม่ค่อยหิวนะเนี่ย ยังแย่งเพื่อนคนอื่นทานเลย
กลุ่มข้างๆเปิดบ่อนเล่นน้ำเต้าปูปลา ช้านอยากไปแจมด้วยจัง
แต่ไม่กล้า เพื่อนๆเค้าเล่นไพ่กัน แต่เราก็เล่นไม่เป็น แต่สำหรับช้านแล้ว

ไม่มีอะไรที่เซงหรอกน่า เพราะสายตากลัดมัน เหลือบไปเหงหนุ่มๆหลายกลุ่ม
(เน้นว่า หลายกลุ่มนะ)กระโดดเล่นน้ำ บางคนก็ตกปลา แหม!!บรรยากาศดีขึ้นแล้ว
นั่งกินเหล้าแล้วดูหนุ่มๆ เล่นน้ำ ทำไมชีวิตช้านมีความสุขจัง
น่าเสียดาย อยากจะมาค้างที่นี่ซักคืน คงจะมันส์ไม่เบา อิอิ..

นัดเรือมารับตอนสี่โมงเย็น ไม่อยากให้มารับช้ากว่านี้ เพราะกลัวว่า
จะเตรียมตัวเที่ยวคืนนี้ไม่ทัน ไหนจะต้องไป สระ-ไดร์ผมด้วย
คืนนี้อยากไปwarm upอีกจังเลย แต่เพื่อนเค้าไปจองโต๊ะไว้รอแล้ว
ที่ร้าน พี่หยอย...
ชื่อร้านแปลกดี เหงพวกเพื่อนๆ บอกว่า เปงเจ้าของเดียวกับร้านหยอยพ็อกเก็ตเก่า
หลังยุพราช ย้ายมาเปิดใหม่ที่นี่ อันนี้ไม่รู้เพราะไม่ใช่เด็กเชียงใหม่
ตอนนี้ที่ไหน คนก็เยอะ ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว แต่ช้านโชคดีมีเพื่อน(พี่แอน)
คอยเทคแคร์ตลอดทริปที่อยู่เชียงใหม่ อย่างเมื่อวานกะวันนี้ก็มีเพื่อนมาจองโต๊ะให้
ไม่งั้นก็คงอด บรรยากาศร้านหยอย จะเปงแนวนั่งกินเหล้า คุยกะเพื่อนฝูง
ในบรรยากาศติดริมปิง ชิวๆ สบายๆ เพลงเพราะ
แต่อาหารไม่ค่อยเท่าไหร่ ไม่อยากว่าให้เค้าเลย เค้าคงรีบทำอ่ะ
เพราะลูกค้าเยอะ และที่ไม่ประทับใจอีกอย่างก็คือ ยุงเยอะมากๆๆๆ
อันนี้ต้องทำใจ เพราะอยากนั่งใกล้ริมน้ำเอง
ปิดท้ายคืนนี้ กินอิ่มมากๆๆๆๆ อาหารรสชาติพอใช้
ขาหมูเยอรมัน ไม่ผ่านอย่างแรง

วันที่ 5 @ เชียงใหม่ (อยากไปเล่นสาดน้ำหนุ่มๆ)

วันนี้มีโปรแกรมจะไปเล่นน้ำที่หน้ากาดสวนแก้ว
แวะไปเอาพาสปอร์ตที่ให้น้องแบงค์ฝากมากับนครชัยแอร์ ที่อาเขตก่อน
แล้วก็ไปกินข้าวซอยที่ร้าน เสมอใจ ร้านนี้อยู่ติดกับวัดฟ้าฮ่าม บรรยากาศ
ในร้านกว้างขวางดีมีโต๊ะมากมาย ไว้รองรับลูกค้า
แต่เสียดายไม่ได้จ่ายตังค์เพราะหิวจัด (สังเกตมั้ยค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป
อาหารมาลงซักเท่าไหร่) ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ก็เพราะความตะกละ
เอ๊ย!!ความหิวจัดนั่นเอง ก็เลยไม่สนใจถ่ายรูปอีกแล้ว

---Puripunn Baby Grand Boutique Hotel

ดูรูปละกันนะค่ะ ขี้เกียจบรรยาย เพราะสวยงาม ไฮโซเหลือเกิน

ห้องพักที่พักกัน 24,000บาทต่อคืน แพงได้ใจจริง
ก็เลยเก็บภาพมาให้ดูค่อนข้างเยอะ ที่ประทับใจที่สุดก็คือ
ได้นั่งทานข้าวกับเจ้าของโรงแรมด้วย เปงกันเองสุดๆ
แถมยัง ทั้งหล่อ และสวยอีกด้วย หน้าเด็กอีกต่างหาก
ขอบคุณอาหารมื้อเที่ยงด้วยนะค๊า มาคราวหน้าจะให้นังมลซื้อหมูยอ กับแจ่วปลาร้ามาฝาก


แล้วก็ไม่ได้เล่นน้ำกันอีกแล้ว เพราะกลัวอาบน้ำแต่งตัวไปเที่ยวไม่ทัน
วันนี้จะไป warm -up อีก ก็เลยจะออกเร็วหน่อย
ไปถึงหน้า warm-up สองทุ่ม ไม่มีที่ เซงว่ะ ขนาดมาเร็วนะเนี่ย
ขับรถวนหาร้าน นั่งกินข้าวและกินเหล้า กันตั้งนาน และมาจบลง
ที่ร้าน Bla Bla Bla เปงร้านที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ เอาเปงว่า
คิดว่ามานั่งดูบอลละกัน เพราะคืนนี้มี อาเซน่อล และ แมนจู

คืนนี้เปลี่ยนที่นอนอีกแระ

วันนี้ลงทุนมาทานข้าวเที่ยงกันค่อนข้างไกล
มาทางสายแม่ริม - สะเมิง อยู่เลยสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ตรงไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกตลอดทาง ร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ
ร้านอาหารนั้นตั้งอิงแอบแนบชิดกับไหล่เขา มีน้ำตกโป่งแยงขนาดใหญ่ไหลผ่านด้านล่าง
สายน้ำใสไหลแรงตลอดปี ทิวทัศน์สวยงามของหุบเขา

อากาศที่เย็นสบายด้วยสายลมจากธารน้ำตก

เป็นร้านของคุณปิยะ ภิรมย์ภักดี เสี่ยตระกูลเบียร์สิงห์นี่เอง

เป็นทั้งร้านอาหาร ทั้งรีสอร์ต ร้านนี้ดังในหมู่นักท่องเที่ยวมาก ๆ บรรยากาศดีมาก

อาหารมีทั้งอาหารไทยและฝรั่ง ทานข้าวไป นั่งชมน้ำตกไป

ขอแนะนำว่าก่อนไปให้โทรไปจองที่นั่งตรงระเบียงที่เห็นน้ำตกชัด ๆ

วันนี้เราไปทานข้าวเที่ยง ที่นั่งตรงส่วนระเบียงที่ส่วนมากจะถูกจอง
ยังแดดจ้าอยู่เลย แต่ช้านว่ายุงต้องเยอะแน่เลย เพราะขนาดตอนนั่งทานข้าว
กันอยู่ ยังมีแมลงอะไรไม่รู้เหมือนแมลงวันปีกทอง แต่ฟันแหลมมาก กัดช้าน
อาหารรสชาติธรรมดามากๆ แถมราคายังไม่รวม service chart อีก
พนักงานบริการแย่มากๆๆ เหมือนกับเค้าไม่ง้อลูกค้าเลยอ่ะ
แต่ช่างเหอะ ช้านมาครั้งนี้ครั้งเดียวละกัน ถือซะว่ามานั่งกินวิว

--------------------

เช๊คบิลเสร็จแล้ว ไปเดินเล่นดูบรรยากาศรอบๆกันดีกว่า
แต่ช้านยังทานข้าวไม่อิ่มเลยอ่ะ อยากกินส้มตำ
เราใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็เดินมาถึงน้ำตก ที่เรามองเห็นไกลๆจากร้านอาหาร
ยังคิดอยู่ว่า เค้าโชคดีจังเลย ที่มีที่ดิน แล้วมีน้ำตกไหลผ่านเปงของตัวเองด้วย

ถึงแม้จะเปงเพียงน้ำตกเล็กๆก็ตาม แต่ก็มีน้ำไหลตลอดทั้งปี นี่ขนาดหน้าร้อน
น้ำยังมีเยอะอยู่เลย ส่วนบรรยากาศของรีสอร์ทที่นี่ ช้านก็ว่ายังธรรมดา
เพราะไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมาก ห้องพักก็ดูเก่าๆ
ยังไงไม่รู้อ่ะ แถมยังไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรให้นักท่องเที่ยวเลย
เพราะจุดเด่นของที่นี่เค้าจะเน้นร้านอาหารมากกว่าอ่ะ

เริงแรดที่เชียงใหม่คืนสุดท้ายที่ Good View
คืนนี้ออกมาท่องราตรีกันค่อนข้างเร็วกว่าทุกคืนเพราะกลัวว่าจะเต็ม
เราเลือกนั่งที่ good view ต้องมาซะหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวจะเหมือนมาไม่ถึง
เชียงใหม่ โต๊ะติดริมน้ำเต็มอยู่แล้ว ไม่ต้องหวังเลย แต่ถึงมีก็คงไม่นั่ง
นั่งบาร์น้ำดีกว่า ไปกันแค่ 2 สาว อาจมีผู้ชายมาคุยเปงเพื่อนก็ได้
สั่งขาหมูเยอรมันมาก่อนเลยเปงอันดับแรก อยากบอกว่า ขาหมูที่นี่
อร่อยกว่าที่ good view bkk. อีกแนะ แถมบรรยากาศก็ยังดูอบอุ่นกว่าอีก
เพราะที่สาขากรุงเทพ เค้าจะแบ่งโซนไง ที่นี่รวมกันเลย นักร้องน่ารักมากๆๆ
หมายถึงน้องผู้หญิงนะ คนเที่ยวส่วนมากจะเปงวัยทำงานมากกว่า
มีต่างชาติด้วยพอสมควร บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีมาก ดึกๆมีหนุ่มๆมาคุยด้วย
เพียบเลย นะ ยังไงก็เปงคืนสุดท้ายเต็มที่เลย ช้านอยากลุกขึ้นเต้นมากเลย
เพราะดึกๆ นักร้องร้องแต่สากลล้วนๆและร้องเพราะด้วย แต่ติดตรงที่ อากาศร้อนมาก
ก็เลยต้องขอบาย....อ้อ ลืมบอกไปว่า เดินไปเล่นที่ร้านข้างๆด้วย(ริเวอร์ไซค์)
เพราะเหงต่างชาติเดินไปกันเยอะ ก็เลยเดินตามไปด้วย แต่พอไปแล้วผิดหวัง
เพราะบรรยากาศร้อนกว่าอีก (คล้ายๆซูซี่ที่ข้าวสารเลยค่ะ)
เที่ยงคืนก็เช็คบิลกลับ ไม่ลืมแวะshopที่ร้านขายของที่ระลึกของที่นี่
ช้านซื้อไปรษณียบัตร ส่งให้ตัวเองที่ ดีดีที่ ด้วยแหละ

ขากลับแวะกาดหลวง เพื่อที่จะไปกินขนมจีนอันเลื่องชื่อของที่นี่
แต่รสชาติธรรมดามาก กลับห้องเก็บของเตรียมเดินทางต่อไป ชร.
(เชียงรายค่ะ)

ตื่นเช้าอีกแระ กระเทยปลุก นอนไม่อิ่มเล๊ย
แวะไปทานไก่ย่าง ส้มตำ วิเชียรบุรี ก่อน รอครอบครัวหรรษา
(มด แมกซ์ ปั๊บ) ที่เดินทางลงมาจากแม่ฮ่องสอน รอนานมากๆๆ
จนตอนแรกจะไปเดินที่centralแอร์พอร์ตรอ แต่พอจะหาที่จอดรถ
มาพอดี ปล่อยให้เจ๊อุ๊ดเค้ารอนานมากแล้ว เกรงใจอ่ะ
และพวกเราก็ move ไปนั่งที่รถเจ๊อุ๊ด ปล่อยให้ครอบครัวหรรษา
เค้าอยู่ในบรรยากาศของครอบครัวเค้าไป

แวะถ่ายรูปที่บ่อน้ำพุร้อนกลางทาง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก
ขับรถผ่านสวนสตอบอรี่ด้วย แต่ไกค์กิติมาศักดิ์ของเราบอกว่า
ช่วงนี้ไม่น่าซื้อ เพราะว่าเค้าฉีดยาฆ่าแมลงเยอะ แหมเจ๊ สกัดดาวรุ่งรึป่าวค่ะ
ก่อนเข้าตัวจังหวัดเชียงราย 10 กิโล แวะไหว้พระที่วัดร่องขุ่น
คนเยอะมากๆๆ แต่ขอชมเลยว่าวัดสวยมาก
แวะ check-in ที่โรงแรมแถวๆสนามบินเก่า ขอบอกว่าราคาถูกมาก
แถมมี wireless ฟรีซะด้วย อย่างนี้ทุกๆคนตกเอาโน๊ตบุ๊คส่วนตัว
มาเช็คเรทติ้งกันซะหน่อย กำลังเตรียมตัวออกไปทานข้าว
ดั๊น ฝนตก ลมพัดแรงมากๆๆ เหมือนพายุเข้าเลย
ยังงี้โปรแกรมตระเวณราตรีของเราต้องงดไปโดยปริยาย

เย้ๆๆ ได้ออกตระเวณราตรีทั่วไทยกันอีกแล้วเจ้าค่ะ
วันนี้จะพาเที่ยวที่อุดร ร้าน D2 น่าจะเปงร้านที่มีวัยรุ่นเที่ยวกันเยอะที่สุดนะ
บรรยากาศร้านกว้างขวาง เสียดายที่มาดึกได้โต๊ะ ด้านหลังแนะ
คนเที่ยวเยอะดี แต่คนเที่ยวจะแนวๆ the rock ที่บ้านช้านอ่ะ
วงดนตรีเล่นได้ดีมาก ยอมรับเลย ของเค้าดีจิงๆ
แต่คนเที่ยวหน้าตามะค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่เลยนะ โดยเฉพาะสาวๆนี่ ไม่มีใครที่น่าแจกเลย
ขากลับ เจอด่าน โดน ตรวจ จับ เป่า ด้วย โชคดีที่พี่สาวช้านดื่มไปไม่เยอะเท่าช้าน ก็เลยรอดกันค่ะ (รู้ทั้งรู้ว่ามีด่าน แต่ทำไงได้ นังมลพามาเส้นทางนี้เส้นเดียว ถ้าหลบไป มีหวังหลงกันแน่) อิอิ ประสบการณ์ครั้งแรกค่ะ