good morning!!!!!everybody นังแบงค์โทรมาปลุกช้านตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง แต่ก็นอนต่อ อิอิอิอิอิ
ก็มันยังเช้าอยู่เลยนี่ 6โมงช้านก็ตื่นตามนาฬิกาปลุกของช้านเองแหล่ะ กว่าช้านจะออกจากห้อง
ก็ เกือบ 7 โมง แต่เอ.......วันนี้ทามไมรถติดจัง มันผิดปกติแล้วนะ รอรถก็นานโครต เพิ่งมารู้ว่า
รถเมล์(เล็ก)สาย12 ชนกับรถเมล์สาย 163 นรกเจอกัน อะไรจะเหลือ ก็ต้นไม้หักหน่ะ กำของคนที่เค้าต้องไป
ทำงานเช้าจัง รถติด เฮ้อ++
เดินทางโดยรถเมล์สาย 117 (กทม.2-ท่าน้ำนนท์)รู้สึกว่านั่งรถเมล์สายนี้คุ้มมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะ
7 บาท ได้นั่งข้ามจังหวัด แต่ยังไงก็ไม่คุ้มค่าเท่ากับสาย 545 หรอกนะ(สายนี้เค้าวิ่งผ่าน 3 จังหวัด
เชียวนะ ก็ นนทบุรี กทม. และสมุทรปราการ)
กว่าจะถึงท่าน้ำนนท์เกือบ 9 โมง กำเลยกรูโดนนังแบงค์สวดซะยับ เกือบจะไม่ทันเรือด่วนซะแล้ว
ดีนะที่มีข้ออ้างว่ารถชนกัน(ก็มันจิงนี่)
เราเริ่มต้นกันที่ ท่าน้ำนนท์
นี่คือ-----เรือสำราญที่จะพาช้านไปยังท่าศิริราช
และไกค์สาวสวยร่างอวบอัด คุณน้องแบงค์.......

เริ่มหิวแล้วก่อนทำบุญ วันนี้ ขอแวะทานข้าวก่อนละกัน อิ่ม!!!!!!!!
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง
วัดแรกที่จะไปกันวันนี้คือ วัดระฆังโฆสิตาราม
ทางเข้าวัดเต็มไปด้วยพ่อค้า แม่ค้า ขาย หอย ปลา ปู ฯลฯ สำหรับปล่อยเพื่อ
สะเดาะเคราะห์ แต่เราว่า ในเยอะเกินไปนะ ไอ้ร้านค้าเนี่ย ถึงเราปล่อยแล้วหน้าวัด
เดี๋ยวพ่อค้าแม่ค้าก็จับมาขายอีก .................
สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่วัดระฆังฯ อ่านคาถาชินบัญชร
พร้อมกันหน้ารูปเคารพสมเด็จโต และเข้าไปสักการะพระประธาน เพื่อความสิริมงคล
"ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี" (สักการะด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น)
ขากลับไม่ลืมที่จะ เคาะระฆัง เพื่อชื่อเสียงที่โด่งดังเหมือนชื่อวัด
แค่วัดเดียวหน้าตาอิ่มบุญมากๆ
วัดที่2 คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว
อากาศเริ่มร้อนแล้ว แต่เราก็ไม่หวั่นเพราะ
ไหว้ "พระแก้วมรกต" ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่
เพื่อ "แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา"
นักท่องเที่ยวเยอะจิงๆๆๆโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดูเจริญหูเจริญตา
วัดก็สวย คนก็หน้าตาดีๆเยอะ(ซะงั้น) มีเวลาชมความงามของวัดพระแก้ว
กันค่อนข้างนาน มาก
ก็เลยได้เก็บภาพสวยๆมาฝากเยอะ
ถ่ายคู่กันบ้าง โดยการหลอกล่อ เอ๊ย!!ไม่ใช่ วานให้ ต่างชาติที่หน้าตา ค่อนข้างดีมาถ่ายให้เรา
รูปออกมาจะสวยหรือไม่เราไม่สนเพราะสนคนถ่ายมาฝ่า และเป็นการฝึกภาษาอังกฤษ
(ที่ไม่ได้เรื่อง)ของช้าน
ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์นักท่องเที่ยวจะเยอะมากกว่านี้
พอถ่ายรูปเกือบพอใจกันแล้ว คุณน้องแบงค์ไกค์สาวแสนสวยของเรา
ได้พาเดินไปยังด้านหลัง(ซึ่งเป็นทางที่เค้าไม่ค่อยเดินไปกัน) โดยที่ไกค์
ช้านได้บอกว่า"ทางลัด" (จิงหรอ)
ห้ามต่างชาติ ยังงี้ช้านก็เดินผ่านไม่ได้หน่ะสิ****@@*@@**
นังไกค์ผี+ไกค์นรก พาช้านเดินข้ามถนนมาทางมหาดไทย ที่มีปืนใหญ่
เยอะๆ อยากถ่ายรูปจัง แต่ถ่ายออกมาต้องไม่สวยแน่เลย
3.ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
"ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนา บารมี"
สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ไหว้พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์
พระกาฬไชยศรี และเจ้าพ่อหอกลอง ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ตามธรรมเนียม
"ไหว้เจ้าพ่อหลักเมือง ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี" (บูชาพระด้วยดอกบัว
กับธูป 3 ดอก ไหว้พระองค์เสาหลักเมืองจำลองด้วยผ้าแพร 3 สี พวงมาลัย แล้วนำพวงมาลัย
ไปไหว้เสาหลักเมืององค์จริงเสร็จแล้วไหว้เทพารักษ์ทั้ง 5) ท้ายสุดก็ต่อชะตา ชิวิตตัวเอง
โดยเติมน้ำมัน ตะเกียง
4.ศาลเจ้าพ่อเสือ
“ศาลเจ้าพ่อเสือ” หรือที่คนจีนเรียกว่า “ตั่วเล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่
ที่คนจีน รวมไปถึงคนไทย ให้ความเคารพ และนิยมมากราบไหว้กันมาก
ศาลนี้สร้างโดยชาวจีนแต้จิ๋ว เดิมตั้งอยู่ ถ. บำรุงเมือง เมื่อมีการขยายถนน
ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงย้ายมาสร้างใหม่ ที่บริเวณทางสามแพร่ง ถ. ตะนาว เขตพระนคร
ไกค์สาว นำทางโดยการเดินจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมายังศาลเจ้าพ่อเสือ
อากาศค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
คนไม่ค่อยเยอะเหมือนปีที่แล้ว อาจจะเป็นเพราะปีก่อนที่มากัน อยู่ในช่วง
ตรุษจีน โชคดีที่สวมแว่นตาดำ กันควันจากธูป อาจทำให้มีน้ำหูน้ำตาขึ้นมาก็ได้
สักการะศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า หนึ่งในสามมหาสถานของพระนคร ที่ชาวจีนต้อง
สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล "เสริมอำนาจบารมี" (สักการะด้วยธูป 15 ดอก เทียนแดงคู่-เทียนจีน)
พออกจากศาลเจ้าพ่อเสือ วัดต่อไปคือ วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
เราเลือกที่จะนั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก ไป(ดีกว่า) 30 บาท
อยู่บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพฯ
และก็ได้เห็นเสาชิงช้าใหม่แล้ว ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีนัก
5.วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
"ไหว้พระวัดสุทัศน์ฯ วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"
สักการะพระองค์ประธาน (พระศรีศากยมุนี) ที่เก่าแก่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย
(สักการะด้วยด้วยดอกไม้คู่ ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม) ******ทำไมช้านรู้สึกเหนื่อยจังเยย
จาตายแล้ว ปีก่อนช้านไม่ได้นอน+แฮงค์ แล้วมาทำบุญ 9 วัดยังไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
แต่ทำไมมาปีนี้เหนื่อยเร็วจัง เนี่ย รู้สึกแก่ลงไปเยอะเลยนะ
ก่อนจะออกจากวัดแวะ พักผ่อนหย่อนใจที่สวนน้ำตกน้อยๆข้างห้องน้ำก่อน
ช่างกล้ามานั่งเก๊กสวยหน้าห้องน้ำนะ
พออกจากวัดสุทัศน์ฯ เราได้เปลี่ยนการเดินทางใหม่โดย รถเมล์สาย 12
เพื่อที่จะไปยังท่าปากคลองตลาด อากาศร้อนมากๆ ขอแวะซื้อโค๊ก
ใส่น้ำแข็งเดินกินสักถุง น่าจะสดชื่นขึ้นนะ วัดต่อไปที่จะไปที่วัดกัลยาณิมิตร.....ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปจ๊ะ
6.วัดกัลยาณมิตรวรวิหาร
ช้านมาเมื่อปีก่อนก็ยังบูรณะไม่เสร็จ ปีนี้ก็ยังบูรณะกันอีกต่อไป วัดนี้สบายหน่อย
เพราะไม่ค่อยได้เบียดเสียดกับผู้คนทำบุญ คนน้อยมาก ไหว้แบบสบายๆ
ไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำคติอยุธยา เพื่อความเป็นสิริมงคล
"ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดี มีชัย ปลอดภัย ตลอดปี" (สักการะด้วยธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่)
แต่พอช้านไหว้พระเสร็จเริ่มปวด(หนัก) ช้านต้องเดินตามหาไกค์สาวสวย
ของช้าน เพื่อที่จะให้พาไปเข้าห้องน้ำ เพราะวัดนี้ค่อนข้างน่ากลัวตรงที่มีขอทาน เยอะมากกกกก
พอออกจากวัดกัลยาฯ ช้านต้องเดินต่อไป(ทางลัด) ซึ่งไม่รู้ว่าคนอื่นที่เค้าไปทำบุญ
9 วัดกัน จะเคยไปเส้นทางทางแบบช้านไหม เพราะต้องเดินผ่านหมู่บ้าน
ข้ามสะพานด้านหลังกองทัพเรือ เดินผ่านวัดอีกวัดนึง (ไม่รู้ว่าวัดอะไร) ผ่านตรอกซอกซอย
และเดินไปเดินมา จะมาทะลุตรงนี้เอง ปีก่อนนังไกค์เถื่อนคนนี้ก็พาช้านมาเส้นทางนี้
ขอบอกว่าถ้าไม่เคยมานะ จะนึกว่าพาหลอกมาขายก็ได้นะคะ(หน้าตาสวยๆอยู่ด้วย)
เห็นสวยดี อดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องออกมาถ่าย นี่คือ "กองทัพเรือ" ครับผม
แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือ นี่เลย ถนนตรงกองทัพเรือ สวยดี เป็นถนนที่ลงทุน
ในการก่อสร้างค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ก็ดี เป็นหน้าเป็นตากับเมืองไทย
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
และช้านก็เดินทางมาถึง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
7. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
นี่ช้านถ่ายจากประตูข้างวัด รูปก็เลยออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
ไหว้พระประธานซึ่งกล่าวกันว่าพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงปั้นพระพักตร์
ด้วยพระองค์เอง เพื่อความสิริมงคล "ไหว้พระประธานวัดอรุณ ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"
(สักการะด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่)
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
นั่งพักเหนื่อย พร้อมชมความงามของ พระประธานก่อนที่จะออกมาชมทิวทัศน์รอบวัด จุดเด่นที่สุดของวัด
คือ "พระปรางค์"ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
รูปนี้เป็นรูปที่ช้านภูมิใจมากที่สุดในทริปนี้ เพราะช้านคิดว่าช้านถ่ายออกมาสวยมากๆๆ
นอกจากนี้ยังมียักษ์ปูนปั้นขนาดใหญ่ 2 ตน ตั้งอยู่หน้าประตูซุ้มยอดพระมงกุฎ
มีนามว่า "ทศกัณฐ์" และ "สหัสเดชะ" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า "ยักษ์วัดแจ้ง"
และนี่ยักษ์ทั้ง 2 แห่งวัดแจ้ง (ล้อเล่น)
มีเวลาเก็บภาพสวยๆไว้ดูเล่น ไม่ต้องรีบเพราะจะครบ 9 วัดแล้วค่ะ
บ๊าย-บาย วัดอรุณฯ วันหน้าช้านจะมาอีก
เรือโดยสารข้ามฟากจากท่าวัดอรุณ ไปยังท่าเตียน
และเดินต่อไปยัง
8.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "วัดโพธิ์"
พอมาถึง ช้านต้องขอนั่งพักเหนื่อยตรงน้ำตก (ที่เดิม) เหมือนกับปีก่อน
แต่ที่ไม่เหมือนปีก่อนคือ ขาดนังแก้วมณี ไป ถ้ามาด้วยคงหนุกกว่านี้
....เมาท์ไป เมาท์มาช้านเพิ่งสังเกตว่าฝรั่งที่ช้านไปนั่งข้างๆ
เอ..หน้าตาดี นี่หว่าถึงขั้นหล่อเลยว่าได้ ช้านต้อง speak english
ซะแล้ว อิอิ..หลอกล่อฝรั่งให้ถ่ายรูปให้
และนี่คือรูปทำบุญ 9 วัด ของปีก่อน มุมเดียวกัน
พอช้านระลึกความหลังเมื่อปีก่อนเสร็จสิ้น ไกค์สาวก็พาเราไปนมัสการ
พระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่พระบาททั้งสองข้างประดับมุกลวดลายภาพมงคล 108 ประการ)
และแวะไหว้เจ้าแม่กวนอิมปางพันกรที่เลื่องลือครั้งสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าศักดิ์สิทธิ์มากเพื่อความเป็นสิริมงคล
"ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ สงบ สุข ร่มเย็นตลอดปี" (สักการะด้วยทองคำเปลว 11 แผ่น ธูป 9 ดอก เทียนคู่)
อันที่จิงแล้วช้านมีโอกาศได้มาทำบุญที่วัดนี้ค่อนข้างบ่อย เพราะเมื่อก่อนตอนช้านว่างๆ
ช้านก็นั่งรถ ปอ.12 มาสุดสาย ทำบุญ แล้วอิ่ม(เพราะมองฝรั่งจนอิ่ม)ตาอิ่มใจ
เอาล่ะ เข้ามาไหว้พระกันเถอะ นมัสการพระพุทธไสยาสน์ อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้าง
ประดับมุกลวดลาย ภาพมงคล 108 ประการ) และแวะไหว้เจ้าแม่กวนอิมปางพันกร ที่เลื่องลือครั้ง
สมัยรัชกาลที่ 3 ว่าศักดิ์สิทธิ์มากเพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ สงบสุขร่มเย็นตลอดปี"
(สักการะด้วย ทองคำเปลว 11 แผ่น ธูป 9 ดอก เทียนคู่) และนี่คือ ตักบาตรเหรีญสลึง
วัดที่จะไปเปงวัดสุดท้ายแล้ว ก็คือ วัดชนะสงคราม ไกค์สาวเราพาเดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศ
สไตล์ยุโรป หรือ ยูโร นั่นเอง เรียกซะหรูนะ ไม่เปงไร ได้ใกล้แอร์ก็พอแล้ว เราลงรถกันที่ถนนพระอาทิตย์
หน้าริเวอร์ แมนชั่น (รังรักเก่าชองช้าน กับ ทัลหนุ่มอิสราเอล)แหม!พูดไปแล้วช้านก็นึกถึงอดีต มาแถวนี้
แล้วมันได้กลิ่นอายต่างชาติ ยังไงไม่รู้ พอเถอะๆ แม่คุณ เข้าวัดได้แล้ว
9.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
ไหว้พระประธานในโบสถ์และรูปเคารพสมเด็จพระกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)
ผู้นับถือความซื่อสัตย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดชนะฯ อุปสรรคและศัตรูร้ายพ่ายแพ้"
(สักการะด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่)
มีรอยพระพุทธบาทจำลองด้วย และช้านก็ก้าวขาออกมาจากวัดที่ 9 ในเวลา บ่าย 3โมง
และปิดท้ายการทำบุญ 9 วัด ปีนี้ด้วยการ หาไรทานอร่อยๆดีกว่า เพราะเพิ่งบ่าย 3 เอง
ไม่เหมือนปีก่อน เสร็จเกือบ 4 โมงครึ่ง เดินเข้าถนนข้าวสารดื่มเบียร์ต่อเลย
แต่ปีนี้ไม่ไหวจิงๆ สังขารไม่เที่ยง ไปแล้วไปเลย
ไกค์สาวเราอาสาพาทานเกี๋ยวเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ย่าน ตลาดบางลำภู
ปกติไม่ชอบทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานะ แต่นี่อร่อยจิงๆ
จบทริปไหว้พระ 9 วัดค่ะ อิ่มบุญจิงๆๆๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น